เรื่องทั้งหมดโดย benz

ศูนย์แสดงเรือพระราชพิธีจำลอง 4 มิติ

highlight3

ศูนย์แสดงเรือพระราชพิธีจำลอง 4 มิติโครงการศูนย์แสดงเรือพระราชพิธีจำลอง (Miniature Thai Royal Performance Center ) มรดกทางวัฒนธรรมแห่งสายน้ำหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งคุณจิราเมศร์ โชคสุริยเกียรติ ได้ริเริ่มและสร้างแนวคิดโครงการฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ในการสร้างเรือพระราชพิธีจำลอง เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาในปี 2554   ด้วยฝีมือการประดิษฐ์ที่ประณีตงดงาม โดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย ประจำปีพุทธศักราช 2551 และทีมงานแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ประจำชาติอันเป็นมรดกสืบทอดทางประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม และสถาปัตยกรรม อันทรงคุณค่า พร้อมเนื้อหาสาระทางวิชาการ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบการนำเสนอโดยใช้ ภาพ แสง สี เสียง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งเดียวในโลก ภายในศูนย์ฯ นำเสนอจำลองพระราชพิธีกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ลอยล่องกลางลำน้ำเจ้าพระยายามอรุณเบิกฟ้าฝั่งพระนคร และเคลื่อนลับจากขอบฝั่งธนบุรี พร้อมแสงดาวจากฟากฟ้า และแสงสีกรุงเทพมหานครยามราตรี กับเสียงกาพย์เห่เรือท่วงทำนองความงดงามแห่งภาษาไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศที่กล่าวมาข้างต้นเสมือนร่วมอยู่เหตุการณ์  อีกทั้งชมภาพยนตร์ 360 องศา แสดงประวัติความเป็นมาของเรือไทย ในรูปแบบภาพยนตร์ Animation จากอดีตถึงปัจจุบันซึ่งหาชมไม่ง่ายในปัจจุบัน

ที่ตั้ง: เลขที่ 353/54 หมู่9 ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง (พัทยา) จ.ชลบุรี
การเดินทาง: ถนนสุขุมวิท ช่วง พัทยากลาง โดยเข้าซอยข้างร้านนำชัย ซอยข้างร้านนำชัยนี้ จะอยู่ระหว่างซอยสยามคันทรีคลับกับซอยเนินพลับหวาน สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก  ทั้งรถยนต์ส่วนตัว  และรถโดยสารประจำทาง
เวลาทำการ: 10.00น. – 20.00น. โดยจัดเป็นรอบ ดังต่อไปนี้ 10.30น., 12.30น.,14.00น.,16.30น. สำหรับมาเป็นหมู่คณะสามารถเลือกเวลาเข้าชมได้
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ชาวไทย 200 บาท เด็กชาวไทย 150 บาท ต่างชาติผู้ใหญ่ 600 บาท เด็กชาวต่างชาติ 200 บาท
ติดต่อ: โทร 081-8655353 FAX 038-489489
เว็บไซต์: http://www.miniaturethairoyalbarge.com/

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนฯ

_DSC8123ศูนย์ศึกษาป่าชายเลนคุ้งกระเบน_1432698751

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนฯ  มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ จัดเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดผืนสุดท้ายของจังหวัดชลบุรีที่หลงเหลืออยู่  โดยทางสำนักงานป่าไม้จังหวัดชลบุรีได้จัดสร้างศูนย์ฯ นี้ขึ้น  เพื่ออนุรักษ์ผืนป่าให้คงอยู่  พร้อมให้ความรู้ประชาชนควบคู่กันไปด้วย  มีการจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ยาว 2,300 เมตร ซึ่งจัดเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย  และมีสวนสุขภาพบริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯ  เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาออกกำลังกาย

นอกจากผู้เข้าชมจะได้พบเห็นดงต้นโกงกางที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น  และช่วยกำบังคลื่นลมทะเลได้เป็นอย่างดีแล้ว  เรือนรากโกงกางเหล่านี้ยังกลายเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ  อีกทั้งช่วยดักให้สารอินทรีย์ในน้ำตกตะกอนได้อีกด้วย  ถ้าสังเกตให้ดีจะพบหอย  ลูกปลา  ปลาตีน  ปูก้ามดาบ  กุ้ง  นกกินเปี้ยว  รวมถึงปูพันธุ์ใหม่ชื่อ “หยกฟ้า”  และมีนกยางบินวนเวียนมาดักซุ่มจับปลากินเป็นอาหารด้วย

ที่ตั้ง : หมู่ 3 ตำบลเสม็ด  อำเภอเมืองชลบุรี  ถนนเลียบป่าชายเลน
การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิท  เลี้ยวขวาที่แยกคีรี  จนถึงถนนเลียบป่าชายเลนแล้วเลี้ยวซ้าย  ศูนย์ฯ อยู่ตรงข้ามกับสำนักงานป่าไม้จังหวัดชลบุรี
เวลาทำการ : 08.30-18.30 น.  ทุกวัน  ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท  เด็ก 5 บาท  ถ้ามาเป็นหมู่คณะใหญ่ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป  ผู้ใหญ่ราคา 5 บาท  เด็กราคา 3 บาท  ถ้าต้องการวิทยากรนำชมเพื่อให้ความรู้  คิดค่าวิทยากรชั่วโมงละ 100 บาท
ติดต่อ : โทร. 0-3839-8268-9 (ในวันและเวลาราชการ), 08-1713-9683
โทรสาร  0-3839-8298

เขาพัทยา

tuppayaL1

เขาพัทยา  หรือเขาทัพยา   หรือเขาทัพพระยา  มีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นเมืองพัทยาได้ทั้งหมด  อยู่ในเขตของสถานีวิทยุโทรทัศน์  สทร. 5  พัทยา  เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึก  มีนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวกันเป็นจำนวนมาก  โดยจุดสำคัญของเขาพัทยามี 2 แห่งด้วยกัน  คือ

ยอดเขาพัทยา  มีลานชมวิวกว้างและม้านั่งโดยรอบ  พร้อมกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญ  จากจุดนี้สามารถเห็นเมืองพัทยาได้อย่างกว้างไกล   ทั้งตึกสูง  บ้านเรือนหนาแน่น  เรือท่องเที่ยวที่จอดลอยลำอยู่ในอ่าวพัทยา  รวมทั้งเห็นเกาะล้าน บรรยากาศชวนเพลิดเพลิน  ลมเย็นสบาย  ในช่วงค่ำจะเห็นแสงไฟของเมืองพัทยาสว่างไสว

อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับลานชมวิว  เป็นประติมากรรมรูปหล่อเหมือนจริง  สีดำสนิท  ในเครื่องแบบทหารเรือเต็มยศพลเรือเอก  มีผู้คนมากราบไหว้ตลอดทั้งวัน


ที่ตั้ง :
ยอดเขาพัทยา  พัทยาใต้  ห่างจากย่านเมืองพัทยา 2 กิโลเมตร
การเดินทาง : ไปตามถนนพัทยาสาย 2  มุ่งหน้าทิศใต้ผ่านแยกไปหาดจอมเทียน  จากนั้นตรงต่อไปขึ้นเขาชันผ่านสวนเฉลิมพระเกียรติ  จนถึงสามแยกบนเขาที่มีป้อมตำรวจ  เลี้ยวขวาจะพบกับทางขึ้นเขาพัทยาอยู่ด้านขวา  มีถนนไปจนถึงยอดเขา  ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุ  สทร. 5  จอดรถไว้ได้ทั้งในและนอกสถานี
เวลาทำการ : เปิดให้ท่องเที่ยวตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

วิหารเซียน

picture2011-2112255418014

วิหารเซียน (อเนกกุศลศาลา) เป็นแหล่งรวมงานศิลปะไทย-จีนชั้นสูงที่สำคัญยิ่งของประเทศไทย  อาคารใหญ่มีรูปทรงเป็นวิหารแบบจีนสูงสามชั้น มีกลุ่มศาลาเก๋งเป็นบริวารโดยรอบ การจัดวางตำแหน่งของสิ่งปลูกสร้างมีทิศทางถูกต้องตามหลักวิชาภูมิลักษณ์หรือฮวงจุ้ย ส่วนการประดับตกแต่งภายในอาคารเป็นไปตามคตินิยมและความเชื่อทางเทววิทยาของชาวจีน  จึงเป็นงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างสูง

วิหารเซียนมีชื่อภาษาจีนว่า “ต้า ผู่ อี่”  เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2531 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ก่อสร้างวิหารเซียนขึ้นในบริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่วัดญาณสังวราราม  อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ใช้พื้นที่ประมาณ 7 ไร่  การดำเนินงานในครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานฤกษ์ในการก่อสร้าง และพระราชทานนามอาคารว่า “อเนกกุศลศาลา”  การก่อสร้างใช้เวลา 4 ปี 6 เดือน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2536  มีสถานที่สำคัญ  เช่น  หอเซียนหรือหอกลางเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อปิดทองของลื้อท่งปิง    พิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะจีนและวัตถุโบราณล้ำค่า   รวมถึงรูปสลักหินแกรนิตขนาดใหญ่จากจีนหลายสิบชิ้น  เป็นต้น

ที่ตั้ง : อยู่ใกล้วัดญาณสังวราราม  ริมอ่างเก็บน้ำบ้านอำเภอ  ห่างจากวัดญาณฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร
การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับที่ไปวัดญาณสังวราราม  มีทางแยกขวาริมอ่างเก็บน้ำบ้านอำเภอ  ช่วงก่อนถึงวัดญาณฯ ประมาณ 500 เมตร  เลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางจะเห็นอาคารทรงจีนโดดเด่นอยู่ริมฝั่งตรงข้าม
เวลาทำการ : 08.00-17.00 น.  ทุกวัน
ค่าเข้าชม : คนละ 50 บาท

เมืองจำลองสยาม

1450172580_704

เมืองจำลองสยาม  (Mini  Siam) เริ่มต้นโครงการด้วยการค้นคว้าข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2529  ปัจจุบันเป็นสถานที่จำลองปูชนียสถานและโบราณสถานที่สำคัญของทั้งไทยและต่างประเทศ  ด้วยอัตราส่วนย่อ  1 ต่อ 25  โดยแบ่งเป็นเมืองจำลองสยาม  และเมืองจำลองยุโรป  ภายในพื้นที่ขนาด 29 ไร่  เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม  วัดมหาธาตุสุโขทัย  อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  สะพานข้ามแม่น้ำแคว  สะพานพระราม 9  ปราสาทหินพิมาย  วัดอรุณราชวราราม   สะพานทาวเวอร์บริดจ์  ดิโอเปร่าเฮาส์  หอไอเฟล หอเอนปิซ่า  และเทพีเสรีภาพ  เป็นต้น  มาเที่ยวที่นี่เพียงแห่งเดียว  จึงเหมือนกับได้เดินทางทั่วไทยและทั่วโลกภายในวันเดียว

ที่ตั้ง : ริมถนนสุขุมวิท  หลัก กม. 143  อำเภอบางละมุง  ถ้ามาจากเมืองชลบุรีจะอยู่ช่วงก่อนถึงแยกเลี้ยวเข้าพัทยาเหนือ
การเดินทาง : สามารถมาถึงได้โดยสะดวก  ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถประจำทางสายชลบุรี-พัทยา  เนื่องจากตั้งอยู่ริมถนนใหญ่  เมื่อลงรถแล้วก็สามารถเข้าไปซื้อบัตร  แล้วเข้าสู่ส่วนจัดแสดงได้เลย
เวลาทำการ : 07.00-22.00 น.  ทุกวัน  โดยในยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม
ค่าเข้าชม : คนไทย  ผู้ใหญ่ 100 บาท  เด็ก 50 บาท  ชาวต่างชาติ  ผู้ใหญ่ 250 บาท  เด็ก 120 บาท
ติดต่อ : โทร. 0-3872-7333, 0-3872-7666  โทรสาร  0-3842-1555
เว็บไซต์  www.minisiam.com

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

maxresdefault

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล  มหาวิทยาลับูรพา  เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีแล้ว  โดยเฉพาะมีตู้กระจกขนาดใหญ่ที่เรียกว่าอะควาเรียม  เลี้ยงปลาทะเลและสิ่งมีชีวิตหลากชนิดหลากสีไว้ให้ชม    สถาบันแห่งนี้มีเนื้อที่ราว 30 ไร่  ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ  พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล   สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มไว้จัดแสดง  และห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล  (ส่วนนี้ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม)

อะควาเรียมหรือตู้กระจกแสดงสัตว์น้ำของที่นี่อยู่บริเวณชั้นล่างของอาคาร  โดยมีเส้นทางเป็นวงรอบไม่ย้อนกลับทางเดิมจัดไว้ให้ชม  ปัจจุบันมีตู้กระจกอยู่มากถึง 43 ตู้  ตั้งแต่ตู้ขนาดเล็กบรรจุน้ำ 500 ลิตร  ไปถึงขนาดมหึมาบรรจุน้ำ (1,000ตัน) 1ล้านลิตร โดยจัดแสดงเริ่มตั้งแต่สัตว์ชายฝั่งทะเล  ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตในแนวปะการัง  และเขตทะเลลึก  อาทิ  เต่าทะเล  ฉลาม  ปลาการ์ตูน  ดอกไม้ทะเล  ปลานกแก้ว  ปลาผีเสื้อ  ปลากะรัง  ปลาข้างเหลือง  ม้าน้ำ  ปลาสิงโต  ปลาปักเป้า  ปลาไหลทะเล  กุ้งพยาบาล  ปูชนิดต่างๆ  ปลาดาว  กระเบน  หอยเม่น  ฯลฯ  นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการมาเป็นครอบครัว  เพื่อร่วมกันเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ

ปัจจุบันด้านหลังสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล  กำลังมีการจัดสร้างอาคาร “โครงการโลกใต้ทะเล”  โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด  และองค์การบริหารส่วนตำบลชลบุรีได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้เข้าชมได้ในปลายปี พ.ศ. 2556 นี้  และน่าจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของโลกใต้ทะเลที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทยในอนาคต

ที่ตั้ง : เลขที่  169  ถนนลงหาดบางแสน  ตำบลแสนสุข  อำเภอเมืองชลบุรี  ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าของมหาวิทยาลัยบูรพา  ก่อนถึงหาดบางแสน 1 กิโลเมตร  และห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 12 กิโลเมตร
การเดินทาง : ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว  สามารถขึ้นรถประจำทางสายชลบุรี-บางแสน-หนองมน  จากนั้นลงต่อรถสองแถวเข้าหาดบางแสน  แล้วลงที่ด้านหน้าของมหาวิทยาลัยบูรพา
เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน  ตั้งแต่เวลา  08.30-16.00 น. ปิดเพียงวันเดียวคือวันจันทร์  ส่วนวันหยุดราชการเปิดถึง 17.00 น.  สาธิตดำน้ำให้อาหารปลามีรอบเวลา 14.30 น.  วันหยุดเพิ่มรอบ 10.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 60 บาท  เด็ก  30 บาท  ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 100 บาท
ติดต่อ : โทร. 0-3839-1671-3  ต่อการตลาด178,ต่อประชาสัมพันธ์184ศึกษาเพิ่มเติมเว็บไซต์  www.bims.buu.ac.th

วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร

wadyanL1

วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร  เป็นพระอารามหลวงที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อถวายสมเด็จพระญาณสังวรฯ  สมเด็จพระสังฆราช  และต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภก  บริเวณทางเข้าวัดมีศาลานานาชาติ  ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติของประเทศต่างๆ  ตั้งอยู่เรียงรายริมสระน้ำ  ภายในบริเวณวัดมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง  พระเจดีย์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสุมพุทธเจ้า  และพระธาตุของพระอรหันต์สาวก  วิหารพระญาณเรศร์  วิหารพระศรีอริยเมตไตรย  พระพุทธไพรีพินาศ  ฯลฯ  และด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูง  จึงสามารถมองออกไปเห็นทัศนียภาพของเขตวัดจรดเมืองพัทยาได้กว้างไกลสุดสายตา

ที่ตั้ง : อยู่ริมอ่างเก็บน้ำบ้านอำเภอ  อำเภอสัตหีบ  ห่างจากหาดจอมเทียนประมาณ 15 กิโลเมตร
การเดินทาง : จากหาดจอมเทียนหรือพัทยาไปตามถนนสุขุมวิท  มุ่งหน้าอำเภอสัตหีบ  ผ่านชุมชนบ้านอำเภอไปเล็กน้อย  สังเกตหลัก กม. 160 เลยไปอีกราว 500 เมตร  เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางไปวัดญาณฯ อีก 5 กิโลเมตร
เวลาทำการ : ประมาณ 06.00-18.00 น.  ทุกวัน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
ติดต่อ : โทร. 0-3823-7506

ฐานทัพเรือสัตหีบ

navee_sataheebL1

ฐานทัพเรือสัตหีบ  เป็นบ้านของราชนาวีที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งอ่าวไทย  ถือกำเนิดขึ้นจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อ พ.ศ. 2457  ครั้งประพาสเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก  ได้ทอดพระเนตรเห็นว่าชายฝั่งบริเวณนี้มีชัยภูมิดีเยี่ยม  สามารถสร้างฐานจอดเรือรบได้   จวบจนปัจจุบันฐานทัพเรือสัตหีบได้พัฒนา  และเปิดพื้นที่บางส่วนให้ประชาชนได้เข้ามาท่องเที่ยว  เช่น


หาดดงตาล
  เป็นชายหาดโค้งยาวไปตามขอบอ่าวสัตหีบ  โดยเริ่มตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอสัตหีบเข้าไปในกองเรือยุทธการ  ริมชายหาดเรียงรายไปด้วยต้นตาลขนาดใหญ่  ประชาชนทั่วไปนิยมมานั่งพักผ่อน  ชมอาทิตย์อันดง  และรับประทานอาหาร  นอกจากนี้เวิ้งทะเลด้านหน้าหาดยังเหมาะสำหรับการเล่นเรือใบและวินด์เซิร์ฟ  โดยผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์สมุทรกีฬา  โทร. 0-3843-2593

ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด  เป็นท่าเรือน้ำลึกซึ่งกองทัพเรือใช้เป็นที่จอดเรือรบสำคัญๆ หลายลำ  ไม่ว่าจะเป็นเรือหลวงจักรีนฤเบศร  เรือหลวงสิมิลัน  และเรือหลวงพระพุทธยอดฟ้า  นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนด    คือ  บริเวณท่าเรือ     รวมถึงดาดฟ้าของเรือหลวงจักรีนฤเบศร   แต่อย่างไรก็ตาม  บางช่วงเวลาเรือเหล่านี้จะออกปฏิบัติหน้าที่  จึงควรสอบถามไปล่วงหน้าก่อน

หาดนางรำ-หาดนางรอง  อยู่ใกล้ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด  โดยแยกจากทางหลวงหมายเลข 3 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3126 ไปประมาณ 5 กิโลเมตร  ถ้าตรงเข้าไปจนสุดก็จะถึงท่าเทียบเรือจุกเสม็ด  แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายไปอีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึงหาดนางรำ-หาดนางรอง  โดยหาดนางรำมีความยาวประมาณ 500 เมตร  เนื้อทรายขาวละเอียดเนียน  ริมหาดมีป่าสนร่มรื่น  พร้อมร้านอาหารและบ้านพัก  หน้าหาดไม่ลึกจึงเหมาะลงเล่นน้ำหรือเล่นเรือใบ  ส่วนหาดนางรองอยู่ติดกัน  เป็นแนวหาดสั้นๆที่เงียบสงบกว่า  ริมหาดมีโขดหิน  ทรายขาว  และน้ำใสดี

เขาแหลมปู่เจ้า  ตั้งอยู่บริเวณใต้สุดของโค้งอ่าวเตยงาม  สามารถขับรถขึ้นไปได้  เพื่อสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503  ใกล้ๆกันมีกระโจมไฟชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ลักษณะเป็นประภาคารรูปครีบกระโดงปลา  สูง 19.50 เมตร  ใช้ส่องสว่างให้เป็นจุดสังเกตแก่คนเรือในยามค่ำคืน  โดยทหารเรือต่างขนานนามให้ว่า “ดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย”  นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเขาแหลมปู่เจ้า  ที่สามารถมองเห็นอ่าวสัตหีบ  อ่าวเตยงาม  เกาะพระ  เกาะเตาหม้อ  รวมถึงอ่าวไทยได้อย่างงดงาม

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล  ตั้งอยู่ริมหาดจุกเสม็ด  ในเขตหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นศูนย์เพาะเลี้ยงและอนุบาลลูกเต่าทะเลที่ได้จากเกาะคราม  โดยนำมาอนุบาลไว้ 3-6 เดือน  แล้วจึงปล่อยคืนสู่ทะเล  ศูนย์ฯนี้ประกอบด้วย 3 ส่วน  คือ  อาคารนิทรรศการ  อะควาเรียม  และบ่ออนุบาลลูกเต่าทะเล  เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ทุกวัน  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

อ่าวเตยงาม  (อ่าวนาวิกโยธิน)  เดิมชื่ออ่าวตากัน  หรืออ่าวทุ่งไก่เตี้ย  เป็นหาดทรายขาวละเอียดเนื้อเนียนตัดกับท้องทะเลสีคราม  ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร  ในอดีตริมหาดเต็มไปด้วยต้นเตยทะเล  ซึ่งยังพอพบเห็นได้ในปัจจุบัน  อ่าวเตยงามนี้ไม่ลาดเอียงมาก  น้ำไม่ลึก จึงเหมาะจะลงเล่นน้ำ  ชาวจีนเชื่อว่าอ่าวเตยงามคือ “สะดือมังกร” เพราะน้ำในอ่าวจะไหลเวียนจากแหลมปู่เจ้าเข้าสู่อ่าว  นับเป็นจุดก่อเกิดพลังธรรมชาติ  นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอนุสรณ์สถาน  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรือใบข้าวอ่าวไทยจากอำเภอหัวหิน  มาถึงอ่าวเตยงาม  เมื่อวันที่ 19 เมษายน  พ.ศ. 2509  เป็นระยะทางกว่า 60 ไมล์ทะเล  เพียงลำพังพระองค์เดียว

พิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน  ตั้งอยู่ที่อ่าวเตยงาม  เป็นอาคารชั้นเดียวใช้จัดแสดงประวัติความเป็นมาของราชนาวีไทย  ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  เปิดให้เข้าชมทุกวัน  ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.  และ 13.00-16.00 น.  โดยไม่เสียค่าเข้าชม  ภายในอาคารแบ่งเป็น 6 ห้องจัดแสดง  และมีส่วนกลางแจ้งด้วย

หาดทรายแก้ว  ตั้งอยู่ภายในเขตโรงเรียนชุมพลทหารเรือ  เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดช่วงหนึ่งของสัตหีบ  เพรามีเนื้อทรายขวาวสะอาดเนื้อเนียนทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร  อีกทั้งน้ำทะเลมีสีครามสดใส  ริมหาดมีบ้านพัก  ร้านอาหาร  นวดแผนไทย  และกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย

ที่ตั้ง : เขตอำเภอสัตหีบ
การเดินทาง : จากอำเภอเมืองชลบุรี  ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ประมาณ 86 กิโลเมตร  จนถึงตัวอำเภอสัตหีบ  จากนั้นวิ่งเข้าถนนเส้นเลียบหาด  จนเข้าสู่เขตทหารเรือ
เวลาทำการ : ถ้าเป็นอาคารจัดแสดงหรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ส่วนใหญ่เปิดเวลา 08.00-16.30 น.  แต่ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวพวกหาดทรายชายทะเล  ก็มักเปิดให้ท่องเที่ยวตลอดเวลา  แต่ต้องแลกบัตรผ่านที่ป้อมยามก่อน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
ติดต่อ : ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวกองทัพเรือในพื้นที่อำเภอสัตหีบ  แผนกกิจการพลเรือน  กองบัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ  โทร. 0-3843-7112 ต่อ 71060, 71061  หรือติดต่อที่กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ  กรุงเทพฯ  โทร. 0-2375-4720, 0-2475-4481  เว็บไซต์  www.navy.mi.th

เขาชีจรรย์

image

เขาชีจรรย์  เป็นเขาหินปูน เดิมมีการระเบิดหินนำไปใช้ในการก่อสร้าง  ต่อมาสมเด็จพระญาณสังวร  ทรงเสียดายลักษณะภูมิทัศน์อันสง่างามของเขาลูกนี้  จึงมีพระดำริที่จะอนุรักษ์ไว้  และได้ดำเนินการสร้างพระพุทธรูปแกะสลักในลักษณะของพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก  เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในวโรกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี  ใน พ.ศ.  2539  โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามพระพุทธรูปนี้ว่า  “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา”  แปลว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรืองสว่างประเสริฐดุงดังมหาวชิระ”

พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  เลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร  ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา  มีความสูง 109 เมตร  หน้าตักกว้าง 70 เมตร  ฐานบัวหรือบัลลังก์สูง 21 เมตร  รวมความสูงขององค์พระและบัลลังก์ทั้งสิ้น 130 เมตร  โดยเป็นการระเบิดเจาะเนื้อหินให้เป็นลายเส้น  แล้วใช้โมเสกทองประดับเข้าไปตามรอยเส้น  เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมาต้องหน้าผา  จึงเกิดประกายสีทองราวกับองค์พระกำลังเปล่งประกาย  ด้านหน้าองค์พระมีลานอเนกประสงค์  สวนร่มรื่น  สระบัว  และสวนหิน  ในเนื้อที่ 15 ไร่

ที่ตั้ง : บ้านเขาชีจรรย์   อำเภอสัตหีบ  ห่างจากวัดญาณสังวราราม  ไปประมาณ 5 กิโลเมตร
การเดินทาง : จากวัดญาณสังวราราม  ไปตามทางเดียวกับวิหารเซียน  ผ่านวิหารเซียนไปตามเส้นทางหลัก  และมีป้ายบอกทางไปอีก 3 กิโลเมตร  หรือจากถนนสุขุมวิท  เข้าทางแยกที่เลยแยกวัดญาณสังวรารามไปราว 500 เมตร  เส้นทางจะตรงถึงเขาชีจรรย์  ระยะทางจากถนนสุขุมวิท  6 กิโลเมตร
เวลาทำการ : 06.00-18.00 น.  ทุกวัน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เกาะล้าน

koh_lan5

เกาะล้าน  เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานานหลายสิบปีแล้ว  เนื่องจากอยู่ใกล้กับพัทยา   จึงเดินทางถึงกันได้โดยสะดวก  ตัวเกาะล้านมีความยาว 5 กิโลเมตร  กว้าง 2 กิโลเมตร  มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง  ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ  ดูปะการัง  เล่นกีฬาทางน้ำ  เช่น  เรือลากร่ม (พาราเซลลิ่ง)  เรือสกี  สกู๊ดเตอร์  โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน  หาดทองหลาง  หาดนวล  และหาดเทียน  ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น  บริเวณเกาะล้านและเกาะเล็กๆโดยรอบ  อย่างเกาะครก-เกาะสาก  เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง  ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก  รวมทั้งยังเป็นสถานที่ฝึกเรียนดำน้ำ  และแหล่งตกปลาที่สำคัญ

จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะล้าน  ได้แก่

ท่าหน้าบ้าน  เป็นท่าเรือของชุมชนเกาะล้าน  ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือเมล์จะไปถึง  เมื่อมองย้อนกลับไปยังฝั่งจะเห็นเมืองพัทยาและหาดจอมเทียนที่มีตึกสูงเรียงรายตลอดแนวชายฝั่ง  นับเป็นจุดชมเมืองพัทยาที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง

หาดแสม
  เป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียดทอดยาวประมาณ 800 เมตร  เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่ดี  ในอดีตเคยมีการพบแร่ทองคำและเป็นที่มาของชื่อแหลมทอง  ทางหัวหาดด้านเหนือมีศาลเจ้าแม่แหลมทองที่ชาวเกาะล้านเคารพสักการะ

หาดเทียน
  อยู่ด้านเหนือของแหลมทอง  ชายหาดหันหน้าตรงหัวเกาะไผ่  ตัวหาดทรายขาวยาว 500 เมตร  ริมหาดมีต้นไม้ร่มรื่น  และเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงาม

หาดตาแหวน  เป็นหาดที่มีความสวยงาม  ทรายขาวเนียนละเอียดทอดยาว 800 เมตร  น้ำใส  คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวและเครื่องเล่นทางน้ำ  เป็นจุดหลักของกรุ๊ปทัวร์ที่มาลงเล่นน้ำและกินอาหาร  ไม่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักสงบ  ถ้าสนใจควรหาโอกาสไปเที่ยวหลัง 16.00 น.  เมื่อกรุ๊ปทัวร์เดินทางกลับหมดแล้ว

หาดทองหลาง  อยู่ต่อเนื่องกับหาดตาแหวนทางด้านทิศเหนือ  โดยมีแหลมหินคั่นอยู่  แต่ทางรถยนต์ต้องเข้าคนละเส้นทางกัน  บรรยากาศของหาดนี้มักคึกคักไปด้วยกรุ๊ปทัวร์คล้ายหาดตาแหวน  แต่เบาบางกว่า  ชายหาดมีความยาวประมาณ 500 เมตร

หาดสังวาล  เป็นชายหาดเล็กๆ  ยาวเพียง 150 เมตร  มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำใส  เหนือชายหาดร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่  นับเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับคนรักสงบอย่างแท้จริง

หาดนวล  อยู่ในส่วนใต้สุดของเกาะล้าน  ตัวหาดยาวประมาณ 350 เมตร  ทรายไม่ขาวสวยเหมือนหาดอื่น  แต่เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ดี  และเป็นบริเวณที่พบแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะล้านเชื่อว่าเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง  นิยมนำมาทำเครื่องรางพกติดตัว  เพื่อให้แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ

เกาะสาก-เกาะครก
  เกาะสากเป็นเกาะเล็กๆ รูปเกือกม้าอยู่ทางเหนือของเกาะล้าน  ห่างกันเพียง 600 เมตร  มีหาดทรายขาวสวยยาวประมาณ 250 เมตร  อยู่ด้านเหนือของเกาะ  สงบเงียบเป็นส่วนตัวมาก  ต้องเหมาเรือจากเกาะล้านไป  หรือเหมาจากพัทยาราคาเท่ากับไปเกาะล้าน  มีบ้านพักเปิดบริการ  แต่ต้องโทร. จองล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์  นอกจากนี้ยังควรเตรียมอาหารสดและเครื่องปรุงไปด้วย  ส่วนเครื่องครัวที่บ้านพักมีให้
สำหรับที่เกาะครกนั้นมีหาดทรายเล็กๆ  ไม่เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ  แต่นักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำดูปะการัง  ซึ่งอาจไม่คุ้มกับค่าเหมาเรือไป

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปราว  7.5 กิโลเมตร
การเดินทาง : นั่งเรือโดยสารประมาณ 45 นาที  แต่ถ้าเป็นเรือเร็วใช้เวลาเพียง 15 นาที  มีเรือโดยสารออกจากท่าพัทยาใต้ไปเกาะล้านทุกวัน  เที่ยวไป  ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น.  เที่ยวกลับ มี 2 รอบ  เวลา 12.00 น. และ 14.00 น.  อัตราค่าโดยสาร  คนละ 20 บาท  ที่เกาะล้านเรือจอดบริเวณท่าหน้าบ้าน  หากเดินทางต่อไปชายหาดอื่น  สามารถเช่าเรือหางยาวหรือรถรับจ้าง  นอกจากนี้ยังมีบริการเรือเร็วให้เช่าอยู่ทั่วไปตามชายหาดพัทยา  อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500-2,000 บาท  สามารถแวะเที่ยวได้หลายหาด  แล้วแต่จะตกลงกัน
เวลาทำการ : ท่องเที่ยวตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม