ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นบ้านของราชนาวีที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งอ่าวไทย ถือกำเนิดขึ้นจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2457 ครั้งประพาสเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้ทอดพระเนตรเห็นว่าชายฝั่งบริเวณนี้มีชัยภูมิดีเยี่ยม สามารถสร้างฐานจอดเรือรบได้ จวบจนปัจจุบันฐานทัพเรือสัตหีบได้พัฒนา และเปิดพื้นที่บางส่วนให้ประชาชนได้เข้ามาท่องเที่ยว เช่น
หาดดงตาล เป็นชายหาดโค้งยาวไปตามขอบอ่าวสัตหีบ โดยเริ่มตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอสัตหีบเข้าไปในกองเรือยุทธการ ริมชายหาดเรียงรายไปด้วยต้นตาลขนาดใหญ่ ประชาชนทั่วไปนิยมมานั่งพักผ่อน ชมอาทิตย์อันดง และรับประทานอาหาร นอกจากนี้เวิ้งทะเลด้านหน้าหาดยังเหมาะสำหรับการเล่นเรือใบและวินด์เซิร์ฟ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์สมุทรกีฬา โทร. 0-3843-2593
ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด เป็นท่าเรือน้ำลึกซึ่งกองทัพเรือใช้เป็นที่จอดเรือรบสำคัญๆ หลายลำ ไม่ว่าจะเป็นเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงพระพุทธยอดฟ้า นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนด คือ บริเวณท่าเรือ รวมถึงดาดฟ้าของเรือหลวงจักรีนฤเบศร แต่อย่างไรก็ตาม บางช่วงเวลาเรือเหล่านี้จะออกปฏิบัติหน้าที่ จึงควรสอบถามไปล่วงหน้าก่อน
หาดนางรำ-หาดนางรอง อยู่ใกล้ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด โดยแยกจากทางหลวงหมายเลข 3 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3126 ไปประมาณ 5 กิโลเมตร ถ้าตรงเข้าไปจนสุดก็จะถึงท่าเทียบเรือจุกเสม็ด แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายไปอีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึงหาดนางรำ-หาดนางรอง โดยหาดนางรำมีความยาวประมาณ 500 เมตร เนื้อทรายขาวละเอียดเนียน ริมหาดมีป่าสนร่มรื่น พร้อมร้านอาหารและบ้านพัก หน้าหาดไม่ลึกจึงเหมาะลงเล่นน้ำหรือเล่นเรือใบ ส่วนหาดนางรองอยู่ติดกัน เป็นแนวหาดสั้นๆที่เงียบสงบกว่า ริมหาดมีโขดหิน ทรายขาว และน้ำใสดี
เขาแหลมปู่เจ้า ตั้งอยู่บริเวณใต้สุดของโค้งอ่าวเตยงาม สามารถขับรถขึ้นไปได้ เพื่อสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ใกล้ๆกันมีกระโจมไฟชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ลักษณะเป็นประภาคารรูปครีบกระโดงปลา สูง 19.50 เมตร ใช้ส่องสว่างให้เป็นจุดสังเกตแก่คนเรือในยามค่ำคืน โดยทหารเรือต่างขนานนามให้ว่า “ดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย” นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเขาแหลมปู่เจ้า ที่สามารถมองเห็นอ่าวสัตหีบ อ่าวเตยงาม เกาะพระ เกาะเตาหม้อ รวมถึงอ่าวไทยได้อย่างงดงาม
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ตั้งอยู่ริมหาดจุกเสม็ด ในเขตหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นศูนย์เพาะเลี้ยงและอนุบาลลูกเต่าทะเลที่ได้จากเกาะคราม โดยนำมาอนุบาลไว้ 3-6 เดือน แล้วจึงปล่อยคืนสู่ทะเล ศูนย์ฯนี้ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ อาคารนิทรรศการ อะควาเรียม และบ่ออนุบาลลูกเต่าทะเล เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
อ่าวเตยงาม (อ่าวนาวิกโยธิน) เดิมชื่ออ่าวตากัน หรืออ่าวทุ่งไก่เตี้ย เป็นหาดทรายขาวละเอียดเนื้อเนียนตัดกับท้องทะเลสีคราม ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ในอดีตริมหาดเต็มไปด้วยต้นเตยทะเล ซึ่งยังพอพบเห็นได้ในปัจจุบัน อ่าวเตยงามนี้ไม่ลาดเอียงมาก น้ำไม่ลึก จึงเหมาะจะลงเล่นน้ำ ชาวจีนเชื่อว่าอ่าวเตยงามคือ “สะดือมังกร” เพราะน้ำในอ่าวจะไหลเวียนจากแหลมปู่เจ้าเข้าสู่อ่าว นับเป็นจุดก่อเกิดพลังธรรมชาติ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอนุสรณ์สถาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรือใบข้าวอ่าวไทยจากอำเภอหัวหิน มาถึงอ่าวเตยงาม เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2509 เป็นระยะทางกว่า 60 ไมล์ทะเล เพียงลำพังพระองค์เดียว
พิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน ตั้งอยู่ที่อ่าวเตยงาม เป็นอาคารชั้นเดียวใช้จัดแสดงประวัติความเป็นมาของราชนาวีไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม ภายในอาคารแบ่งเป็น 6 ห้องจัดแสดง และมีส่วนกลางแจ้งด้วย
หาดทรายแก้ว ตั้งอยู่ภายในเขตโรงเรียนชุมพลทหารเรือ เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดช่วงหนึ่งของสัตหีบ เพรามีเนื้อทรายขวาวสะอาดเนื้อเนียนทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร อีกทั้งน้ำทะเลมีสีครามสดใส ริมหาดมีบ้านพัก ร้านอาหาร นวดแผนไทย และกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย
ที่ตั้ง : เขตอำเภอสัตหีบ
การเดินทาง : จากอำเภอเมืองชลบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ประมาณ 86 กิโลเมตร จนถึงตัวอำเภอสัตหีบ จากนั้นวิ่งเข้าถนนเส้นเลียบหาด จนเข้าสู่เขตทหารเรือ
เวลาทำการ : ถ้าเป็นอาคารจัดแสดงหรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ส่วนใหญ่เปิดเวลา 08.00-16.30 น. แต่ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวพวกหาดทรายชายทะเล ก็มักเปิดให้ท่องเที่ยวตลอดเวลา แต่ต้องแลกบัตรผ่านที่ป้อมยามก่อน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
ติดต่อ : ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวกองทัพเรือในพื้นที่อำเภอสัตหีบ แผนกกิจการพลเรือน กองบัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ โทร. 0-3843-7112 ต่อ 71060, 71061 หรือติดต่อที่กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กรุงเทพฯ โทร. 0-2375-4720, 0-2475-4481 เว็บไซต์ www.navy.mi.th